วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558
สารส้ม
การเปลี่ยนเเปลงของสารส้มเหลวจนกระทั่งเเข็งตัว
เมื่ออุณหภูมิลดลงคล้ายกับการแข็งตัวของสารต่างๆที่ถูกหลอมอยู่ภายในโลก
จะเเตกต่างกันตรงที่สารต่างๆ ในโลก
จะหลอมที่อุณหภูมิสูงมากๆ
เมื่อให้ความร้อนแก่สารส้มจนหลอมเหลวหมด
แล้วลดอุณหภูมิของสารส้มเหลวอย่างเร็ว
โดยการนำภาชนะเเช่ในน้ำเเข็งจะเห็นสารส้มเหลวเปลี่ยนสภาพเป็นของเเเข็งในเวลาไม่นาน
ในขณะที่สารส้มเหลวในอีกภาชนะหนึ่งซึ่งห่อผ้าไว้
อุณหภูมิของสารส้มเหลวจะลดลงอย่างช้าๆ และในที่สุดก็แข็งตัวเช่นกัน
เมื่อทุบสารส้มที่เเข็งเเล้วจากทั้งสองภาชนะ และส่งดูด้วยเเว่นขยาย
พบว่าสารส้มทั้งสองมีลักษณะของเนื้อผลึกต่างกัน
ถ้าตกผลึกเร็วจะได้ผลึกขนาดเล็ก
ถ้าตกผลึกช้าๆจะได้ผลึกขนาดใหญ่การเปลี่ยนเเปลงของสารส้มดังกล่าว
เป็นเหตุการณืที่เกิดขึ้นทำนองเดียวกันกับกระบวนการเกิดหินอัคนีในธรรมชาติ
---
อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการตกผลึกของสารส้มเหวและการเย็นตัวลงจองหินแกรนิตและหินออบซิเดียน
- การตกผลึกของสารส้ม >>> สารส้ม (ก้อนใสๆขาวๆที่เอาไว้ใช้แกว่งน้ำให้ตกตะกอน) ถ้าเราเอาก้อนนี้ใส่ไปไว้ในน้ำมันจะละลาย
- พอมันละลายจนก้อนเล็กลงๆไปได้ซักพักนึงมันจะหยุดละลายไม่ว่าเราจะแกว่งนานเท่าไหนมันก็จะไม่ละลายต่อแล้ว
- ที่มันไม่ละลายเพราะว่าในน้ำมีสารส้มละลายออกมาปนเยอะมากแล้วเลยทำให้น้ำ "อิ่มตัว" เหมือนกับเราเทน้ำใส่โอ่งจนเต็มแล้วเทยังไงน้ำในโอ่งก็ไม่เพิ่มอีก
- แต่ถ้าเราเอาน้ำที่มีสารส้มละลายจนอิ่มตัวแล้วไปต้มจนร้อน จะทำให้เราละลายสารส้มได้เพิ่มอีก คล้ายๆกับการเพิ่มขีดจำกัดของน้ำให้ละลายสารส้มได้เพิ่มขึ้นอีก
- พอปล่อยน้ำให้เย็นลงจะมีผลึกเล็กๆเกิดขึ้น
- ผลึกนั้นคือสารส้ม เกิดมาจากตอนที่เราใส่ไปตอนต้มน้ำนั่นเอง พอน้ำเย็นลงสารส้มที่มีอยู่ในน้ำมีเยอะเกินไปมันเลยตกผลึกออกมาเป็นของแข็ง
- แล้วมันเกี่ยวยังไงกับหินแกรนิต
และหินออบซิเดียนเนี่ย?
- หินแกรนิตและหินออบซิเดียนเกิดมาจากแมกมาที่อยู่ใต้ผิวโลก
- ในแมกมาจะมีแร่ต่างๆผสมอยู่หลายชนิด
- พอแมกมาไหลออกมาที่ผิวโลกเราจะเรียกว่าลาวา
พอมันโดนความเย็นก็จะเกิดการตกผลึกของแร่ต่างๆที่อยู่ในนั้นคล้ายๆกับสารส้มเหลว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น