ทิศทางกับฮวงจุ้ย ตอน 2 ธาตุไฟ

ทิศเหนือ สัมพันธ์กับ “ธาตุน้ำ” เพราะหากเราเดินทางขึ้นไปหาประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่นล้วนแต่เป็นประเทศที่มีหิมะตก แสดงว่าความหนาวเย็นอยู่ในระดับเยือกแข็ง ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศไทยในฤดูหนาวก็มีอุณหภูมิติดลบ

ทิศตรงข้ามคือ ทิศใต้ จึงจัดว่าเป็น “ธาตุไฟ”
                ถ้าเราเดินทางเข้าหา “เส้นศูนย์สูตร” ก็ยิ่งจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น ถ้าเทียบกับฤดูร้อนประเทศจีนแล้ว ภาคใต้ของไทยก็นับว่าร้อนอยู่หลายขุม

คนที่ถูกโฉลกกับธาตุไฟ หรือมีอาชีพที่ต้องอยู่กับธาตุไฟโดยตรง เช่น ร้านสุกี้ชาบูปิ้งย่าง หมูกระทะ งานที่ต้องใช้เตาไฟ ช่างเชื่อมโลหะ งานเป่าแก้ว ช่างตีเหล็กตีมีด ช่างหลอมโลหะ ช่างเซรามิค เป็นต้น
                อาชีพที่สัมพันธ์กับธาตุไฟโดยอ้อม เช่น ร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ งานที่ดูแลแสงสีเสียง เครื่องเสียง ลำโพง สายการบิน รถไฟ

ลักษณะของธาตุไฟคือ ลอยขึ้นสู่ที่สูง ตามกฎของอากาศ
                ลักษณะของเปลวไฟคือ พวยพุ่งเป็นยอดแหลมขึ้นสู่เบื้องบน ซึ่งสามารถแทนค่าด้วยสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยม วัตถุที่มียอดแหลม เช่นเสาไฟฟ้า เสาโทรศัพท์ เสารับส่งสัญญาณ เจดีย์ยอดปรางค์

ความเป็นธาตุไฟคือ ความร้อนแรง ลุกโชติช่วงชัชวาล ลุกลามรวดเร็ว มอดไหม้และมืดดับโดยพลัน คึกคักครื้นเครง สนุกสนาน ร่าเริงแจ่มใส สดชื่นมีชีวิตชีวา ความสุขใจ ความอบอุ่น ตรงต่อเวลา ปลอดโปร่งโล่งสบาย ที่โล่งแจ้ง ถ่ายเทได้ง่าย รู้สึกลอยตัวเบาหวิว สั่นไหวไปตามแรงลม แต่โดนจำกัดพื้นที่ในบางครั้ง ต้องการแรงผลักดัน สุกเอาเผากิน หุนหันพลันแล่น เร้าร้อนรุนแรง ต้องการการห่อหุ้ม

สีสันของธาตุไฟ คือ สีแดง สีชมพู สีโทนแดง เช่น สีแดงเลือดนก สีแดงเทา สีแดงหมากสุก สีแดงส้ม

จากเรื่องทิศทางตรงกันข้ามของสรรพสิ่งบนโลก ทำให้เข้าใจว่าการปรากฏขึ้นของหลักการเหรียญสองด้าน ซึ่งศาสตร์ฮวงจุ้ยนิยามว่า “หยินหยาง” และสรรสร้าง “แกนกลาง” ของสรรพวิชาบนผืนพิภพ

หยิน คือ ความร้อน ความอ่อนไหว ความชั่วร้าย สีดำ กลางคืน ฮอร์โมนเพศหญิงฯลฯ
              หยาง คือ ความเย็น ความแข็งแกร่ง ความดีงาม สีขาว กลางวัน ฮอร์โมนเพศชาย ฯลฯ

แต่เคล็ดวิชาอยู่ที่ว่า “ในดำมีขาว ในขาวมีดำ”
               สรรพสิ่งเป็นจุดกำเนิดของอีกสิ่งเสมอ เปรียบกับคนเราย่อมมีด้านมืดในด้านสว่าง อยู่ที่ว่าเราจะใช้สิ่งเหล่านั้นเช่นไร เช่น หากเราได้รับ “แรงกดดัน” แต่ยังเยาว์เรื่องความทุกข์ยาก แต่สามารถนำมันมาเป็น “แรงผลักดัน” ให้ประสบความสุขสมหวังในบั้นปลาย
               

เมื่อเหรียญมีสองด้าน ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าจะหยิบเหรียญด้านใดขึ้นมาใช้
                การออกแบบโลโก้ ก็เช่นเดียวกันว่าต้องการจะสื่อสารความหมายของแบรนด์ออกมาเช่นไร ก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าของแบรนด์และผู้ออกแบบจะรังสรรค์

บ้านทุกหลังย่อมมีจุดดีจุดด้อย
              แต่ทำไมบ้านบางหลังจึงสามารถแสดงศักยภาพได้สูงส่ง ก็เพราะเจ้าของบ้านเลือกใช้จุดเด่นของบ้านหลังนั้นได้ดีเยี่ยม คำตอบคงรอคอยให้ทุกท่านที่สนใจในศาสตร์ฮวงจุ้ยได้มาเลือกใช้ปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่นเดียวกับการออกแบบโลโก้ ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสื่อสารเหรียญในด้านที่เราต้องการจะแสดงออกให้สังคมได้รับรู้และเข้าใจตัวตนของเจ้าของแบรนด์แต่ละแบรนด์